จะเกิดอะไรขึ้นหากคนในประเทศไม่ได้รับการแจกเงินจากรัฐบาล 2567
กล่าวได้ว่าวิกฤติโควิด19 ในปี 2567 รุนแรงและส่งผลกระทบต่อคนไทยมากกว่าปี 2563 ที่ผ่านมา แต่ก็นับว่ายังดีที่รัฐบาลได้แจกเงินผ่านทางมาตรการเยียวยาต่าง ๆ เช่น แจกเงิน 5000 ผ่านโครงการเราไม่ทิ้งกัน หรือเงินสงเคราะห์บุตรรัฐบาล เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าหากประชาชนคนไทยไม่ได้รับการแจกเงินฟรีโอนเข้าบัญชีธนาคารจากรัฐบาล คนส่วนใหญ่คงลำบากมากกว่านี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้า ทำงานในห้างสรรพสินค้า และผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องการธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบเต็ม ๆ
เเอปกระเป๋าตังค์ เป็นอีกหนึ่งบริการที่เราควรดาวน์โหลดติดโทรศัพท์ไว้บ้าง เพราะจะเป็นช่องทางให้เราลงทะเบียนเพื่อรับการแจกเงินของรัฐบาลในปี 2024 อย่างเช่นรัฐบาลแจกเงินล่าสุดผ่านโครงการคนละครึ่ง ผู้ที่ได้รับสิทธิจากโครงการเยียวยาของรัฐในครั้งนี้ก็ต้องผ่านการลงทะเบียนแอพเป๋าตังและโครงการคนละครึ่งทางออนไลน์มาแล้วทั้งนั้น
วางแผนสำรองก่อนโปรโมชั่นแจกเงินรับบาลจะหมด
ในช่วงนี้ คนจำนวนมากอาจจะเพลิดเพลินกับการได้รับการแจกเงินของรัฐบาลหรือได้รับความช่วยเหลือจากโครงการช่วยเหลือจากรัฐบาล เช่น รัฐบาลแจกเงิน 3500 หรือไม่ก็โครงการรัฐบาลแจกเงิน 4000 แต่อย่างไรก็ตาม เราควรวางแผนสำรองไว้ด้วย เพราะหากใครได้ติดตามหนี้สินในประเทศไทยจะพบว่าหลายปีมานี้อัตราการเติบโตของหนี้สินในประเทศพุ่งสูงมาก ซึ่งเราไม่มีทางรู้ว่าวันใดวันหนึ่งอาจเกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลานั้น เราต่างก็ต้องพึ่งพาตัวเองทั้งนั้น
แม้ว่าในปี 2567 คนที่ลงทะเบียนเงินเยียวยารวมไปถึงโครงการรัฐบาลต่าง ๆ ที่แจกเงินอัดฉีดเพื่อให้ประชาชนผ่านแอพเงินด่วนออนไลน์ เพื่อนำไปใช้จ่ายดูแลครอบครัวและกิจการ แต่ก็ไม่แน่ว่าหลังจากนี้รัฐบาลยังไหวอยู่หรือไม่ ฉะนั้น ช่วงเวลาแบบนี้เราควรหางานสำรองหรือหาช่องทางรายได้เสริมกันเผื่อไว้ อย่างน้องหากเกิดวิกฤติขึ้นมาอีกครั้งและรัฐบาลเองก็หมดช่วงโปรโมชั่นในการเยียวยา เราก็ยังพอประคับประคองตัวเองไปได้
รัฐบาลแจกเงินสงเคราะห์บุตร 2567
โครงการเงินสงเคราะห์บุตรรัฐบาลหรือโครงการที่รัฐบาลแจกเงินสงเคราะห์บุตร ประจำปี 2567 เป็นเงินเยียวยาที่รัฐบาลจะแจกให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ขวบ ด้วยวงเงิน 600 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ผู้ที่สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์บุตรรัฐบาลได้ พ่อแม่ของเด็กต้องเป็นคนไทยมีสัญชาติไทย และลูกของตนต้องเกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป พร้อมทั้งลูกของตนต้องไม่อยู่ในการดูแลของรัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลแจกเงินจำนวน 600 บาทต่อเดือน แม้ว่าจะไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะแต่อย่างใด แต่ทว่าสำหรับบางครอบครัวที่ลำบาก พ่อแม่รับจ้างรายวัน หาเช้ากินค่ำ เงิน 600 บาทต่อเดือนก็ช่วยประทังชีวิตได้เยอะทีเดียว
